นมแม่แช่ตู้เย็น เก็บไว้ได้นานแค่ไหน
.
.
นมแม่มีประโยชน์มาก เป็นเหมือนยาวิเศษที่ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกน้อยต่อสู้กับโรคต่างๆ ได้ดี เด็กที่ดื่มนมแม่จะไม่ค่อยป่วยง่าย และไม่ค่อยท้องอืด เพราะนมแม่ย่อยง่ายให้สารอาหารที่ครบถ้วน ช่วยให้ลูกเติบโตแข็งแรง คุณแม่ส่วนใหญ่จึงอยากให้ลูกได้ดื่มนมแม่ให้ได้มากที่สุดถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยมีเวลาแต่ก็ยังปั๊มเก็บแช่ตู้เย็นไว้ให้ลูก คุณแม่หลายท่านอาจเกิดข้อสงสัยในการจัดเก็บ นมแม่แช่ตู้เย็น ว่าจะเก็บได้นานแค่ไหน วันนี้เรามีข้อแนะนำในการเก็บนมแม่และวิธีเก็บนมแม่ให้ได้นานที่สุดมาฝาก อยากรู้ต้องมาดูกันเลย
นมแม่แช่ตู้เย็น เก็บได้นานแค่ไหน
การ เก็บน้ำนม แม่นั้นสำคัญมาก เพราะคุณค่าสารอาหารของนมจะขึ้นอยู่กับการจัดเก็บ โดยวันนี้เราจะมาพูดถึงการจัดเก็บ นมแม่แช่ตู้เย็น ซึ่งสามารถจับเก็บได้หลากหลายวิธีแต่ละวิธีก็จะมีอายุที่แตกต่างกันไปดังนี้
- ถ้าเก็บนมแช่ตู้เย็น ช่องธรรมดาหรือที่อุณหภูมิ 2 – 4 องศาจะสามารถจัดเก็บได้นาน 5 – 8 วัน หลังจากปั๊มแช่ และสิ่งที่คุณแม่ควรรู้ไว้คือยิ่งอุณหภูมิต่ำเท่าไหร่จะยิ่งช่วยเพิ่มอายุในการจัดเก็บให้ยาวนานมากเท่านั้น
- ถ้าเก็บ นมแม่แช่ตู้เย็น ช่องฟรีซหรือช่องแช่แข็งอุณหภูมิคงที่ หลังจากที่ปั๊มต้องรีบนำจัดเก็บทันทีจะสามารถจัดเก็บได้นาน 2 สัปดาห์
- เก็บนมแม่หลังจากที่ปั๊มจากเต้าและรีบนำจัดเก็บในช่องแช่แข็งที่ลบ 19 องศาจะสามารถจัดเก็บได้ยาวนานถึง 6 เดือน
นอกจากอุณหภูมิในการจัดเก็บแล้วจะเก็บ นมแม่แช่ตู้เย็น ให้ได้นานมากที่สุดก็ขึ้นกับความสะอาดของภาชนะในการจัดเก็บด้วย คุณแม่จะต้องใส่ใจความสะอาดให้มาก ใส่ถุงจัดเก็บนมที่มีคุณภาพไม่บางหรือมีรอยรั่วซึม มีซิปล็อคที่ปิดสนิทแน่นหนาและควรเขียนข้างถุงระบุวันเวลาที่จัดเก็บด้วยจะสามารถจัดได้ยาวนานและคงคุณค่าสารอาหารที่ครบถ้วนอย่างดี
เก็บนมแม่ในตู้เย็นได้กี่วิธี
นมแม่แช่ตู้เย็น สามารถจัดเก็บได้หลายวิธี ขึ้นอยู่กับความต้องการในการใช้งาน หากต้องการความสะดวกก็สามารถที่จะแช่ตู้เย็นช่องธรรมดา แต่ถ้าต้องการจัดเก็บให้นานขึ้นก็สามารถจัดเก็บแช่ช่องฟรีซ โดยวิธีเก็บนมแม่ในตู้เย็นก็จะมีดังนี้
1.เก็บนมในช่องแช่ธรรมดา
เก็บนมแม่แช่ช่องธรรมดาหรือฝาตู้เย็น วิธีนี้คือสามารถใช้งานได้ง่าย ไม่ต้องเสียเวลารอให้นมละลาย สามารถจัดเก็บได้ 1 – 2 วัน เหมาะสำหรับให้ลูกดื่มในระยะสั้นดื่มได้ทันทีเลย
2.เก็บนมแม่ในช่องฟรีซ
เก็บน้ำนม ในตู้เย็นช่องฟรีซเป็นวิธีที่เก็บนมแม่ได้นาน เหมาะสำหรับคุณแม่ที่อยากให้ลูกได้ดื่มนมแม่นานที่สุด การเก็บนมแม่ในช่องแช่แข็งตู้เย็น 2 ประตู สามารถจัดเก็บได้นาน 3 เดือน
3.เก็บนมแม่ตู้เย็นอุณหภูมิต่ำ
หากคุณแม่อยากเก็บ นมแม่แช่ตู้เย็น ให้ได้นานมากที่สุด ควรเก็บในตู้เย็นหรือตู้แช่เย็นที่มีอุณหภูมิติดลบ ยิ่งติดลบมากเท่าไหร่ยิ่งสามารถจัดเก็บนมแม่ในตู้เย็นได้ยาวนานมากที่สุด แต่ไม่ควรให้เกิน 12 เดือนเพราะถ้ามากกว่านี้คุณค่าสารอาหารในน้ำนมจะเสื่อมหมดสภาพไป
คำแนะนำในการเก็บนมแม่
นมแม่สามารถจัดเก็บได้หลากหลายวิธี แต่ละวิธีก็จะมีข้อที่ดีแตกต่างกันขึ้นอยู่กับความสะดวกในการจัดเก็บและการใช้งานของคุณแม่แต่ละท่าน การจัด เก็บน้ำนม ที่ดีนมจะต้องไม่เสียคุณค่าและสารอาหารไป วันนี้เรามีข้อแนะนำในการจัดเก็บนมมาฝากเชื่อว่าจะช่วยให้คุณแม่จัดการเก็บน้ำนมได้ดีขึ้น
1.ยิ่งอุณหภูมิต่ำยิ่งเก็บได้นาน
สิ่งที่คุณแม่ควรตระหนักให้ดีในการจัดเก็บ นมแม่แช่ตู้เย็น คือยิ่งจัดเก็บในอุณหภูมิที่ต่ำเท่าไหร่นมที่เก็บจะยิ่งอยู่ได้นานเท่านั้น และหากเก็บในที่มีอากาศร้อนระยะในการเก็บนมก็จะสั้นลง อย่างเช่นการเก็บในอุณหภูมิห้อง 25 องศา ได้แค่ 6ชั่วโมง เก็บในกระติกน้ำแข็งได้ 24 ชั่วโมง การเก็บแบบนี้สามารถเก็บได้เพียงระยะสั้นๆ เท่านั้นและไม่สามารถนำไปแช่ตู้เย็นเพื่อให้ลูกน้อยดื่มใหม่ได้ เพราะนมได้เสื่อมสภาพและมีการก่อตัวของเชื้อแบคทีเรียเสี่ยงที่จะทำให้ลูกปวดท้องหรือท้องเสียได้
2.นมที่แช่แยกตัว
หากแช่นมไปได้สักระยะหนึ่งแล้ว พบว่านมที่แช่นั้นมีการแยกตัวคือบางส่วนเป็นน้ำ บางส่วนเป็นไขมัน คุณแม่ไม่ต้องตกใจว่านมที่แช่นั้นเสียหรือเสื่อมคุณภาพหรือไม่ เพราะเป็นการแยกตัวทางธรรมชาติเท่านั้น สามารถเขย่าให้เข้ากันและนำมาให้ลูกน้อยดื่มได้เลยไม่มีผลใดๆ
และนี่คือขั้นตอนเก็บ นมแม่แช่ตู้เย็น ที่เราได้นำมาฝากในวันนี้ นมแม่ถือเป็นนมที่ดีที่สุดสำหรับลูกเพราะเป็นนมที่มีสารอาหารครบถ้วนย่อยง่ายไม่ทำให้ลูกท้องอืด และเด็กที่ดื่มนมแม่ก็จะเติบโตแข็งแรงไม่ค่อยจะป่วยเพราะได้ภูมิคุ้มกันจากนมแม่เพื่อช่วยให้ต่อสู้กับโรคต่างๆ ได้ดี จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมคุณแม่ส่วนใหญ่จึงพยายามให้ลูกได้ดื่มนมแม่ให้มากและนานที่สุดเท่าที่จะทำได้
บทความแนะนำสำหรับคุณแม่
1. ถุงเก็บน้ำนมยี่ห้อไหนดี ยี่ห้อไหนที่คุณแม่นิยมใช้ มาดูกันเลย
2. อายุของนมแม่ นมแม่แช่แข็งเก็บอย่างไรไม่ให้บูดและไม่สูญคุณค่า
3. วิธีบีบน้ำนมแม่ด้วยมือ ที่ถูกต้องและได้น้ำนมแม่แน่นอน
เรียบเรียงโดย : Mamaexpert Editorial Team